
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อยืดอายุการใช้งานรถยนต์
การดูแลรถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผู้ใช้จำนวนมากมักมี “พฤติกรรมที่ทำร้ายรถโดยไม่รู้ตัว” หากต้องการให้รถอยู่กับเราไปนานๆ และลดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงในระยะยาว ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังต่อไปนี้
1. วอร์มเครื่องยนต์นานเกินไป (โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่)
-
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องจอดวอร์มนาน
-
แนะนำขับเบาๆ 2–5 นาทีแรกแทน
-
จอดวอร์มนาน = เปลืองน้ำมัน + ไร้ประโยชน์
2. เร่งเครื่องแรงทันทีหลังสตาร์ท
-
น้ำมันเครื่องยังไม่ไหลเวียนทั่วเครื่องยนต์
-
เร่งทันทีจะทำให้ชิ้นส่วนสึกหรอเร็ว
-
ควรขับเบาๆ ให้ระบบปรับตัวก่อน
3. ละเลยการเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะ
-
น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก, น้ำยาหล่อเย็น ฯลฯ
-
ของเหลวเสื่อมคุณภาพ = เครื่องพัง + เกียร์รวน
-
ควรเปลี่ยนตามคู่มือหรือคำแนะนำศูนย์บริการ
4. บรรทุกของหนักเกินพิกัด
-
ทำให้ช่วงล่าง แหนบ โช้กอัพ และยางเสื่อมไว
-
ยังมีผลต่อระบบเบรกและระยะเบรก
5. ขับลุยน้ำท่วม / น้ำลึก
-
เสี่ยงน้ำเข้าระบบไฟฟ้า กล่อง ECU หรือท่อไอเสีย
-
เครื่องพัง ซ่อมแพง เสียประกันบางกรณี
6. ละเลยสัญญาณเตือนบนหน้าปัด
-
ไฟเตือน ABS, น้ำมันเครื่อง, แบตเตอรี่ ฯลฯ
-
การเพิกเฉยอาจทำให้ปัญหาลุกลาม
-
ควรตรวจสอบหรือเข้าศูนย์ทันทีที่พบสัญญาณผิดปกติ
7. ไม่ล้างรถ / ไม่ดูแลช่วงล่าง
-
ฝุ่น คราบเกลือ โคลน ทำให้สนิมขึ้น
-
ล้างรถ-ล้างใต้ท้องรถบ้าง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือขับต่างจังหวัด
8. เหยียบคลัตช์ค้าง (สำหรับรถเกียร์ธรรมดา)
-
ทำให้แผ่นคลัตช์สึกหรอเร็ว
-
ควรเหยียบคลัตช์เฉพาะตอนเปลี่ยนเกียร์หรือเข้าเกียร์ถอย
9. จอดตากแดดนานๆ เป็นประจำ
-
ทำให้สีรถซีด พลาสติกกรอบ ยางขอบประตูเสื่อม
-
ควรใช้ม่านบังแดด หรือล้างเคลือบสีบ่อยขึ้น
10. ไม่ใช้เบรกมือเวลาจอดบนทางลาด
-
เกียร์รับภาระมาก (โดยเฉพาะเกียร์ออโต้)
-
อาจทำให้เกียร์เสียหายถาวร ควรใช้เบรกมือร่วมเสมอ
11. ไม่ขับรถเป็นเวลานาน (จอดนิ่งนานเกินไป)
-
แบตเตอรี่เสื่อม, ยางแบน, น้ำมันเครื่องตกตะกอน
-
ควรสตาร์ทรถและขับอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง
สรุปเคล็ดลับ
-
ขับนุ่มนวล ไม่กระชาก
-
ดูแลของเหลว เปลี่ยนตามรอบ
-
สังเกตความผิดปกติทันที
-
หมั่นล้างรถและดูแลภายนอก-ภายใน
-
ใช้รถอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหม